ดาวเคราะห์เเคระ
ดาวเคราะห์เเคระเป็นดาวชนิดหนึ่ง มีลักษณะคล้ายดาวเคราะห์ ตามการจำเเนกชนิดดาวเคราะห์ที่เสนอโดยสหพันธ์ดาราศาสตร์สากล(Internationnal Astromical Union:IAU) เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ 2549 ที่ประชุมสหพันธ์ดาราศาสตร์สากล ที่กรุงปรากสาธารณรัฐเช็ก ทำให้ดาวพลูโตกลายเป็นดาวเคราะห์เเคระ หลังจากเคยยอมรับว่าเป็นดาวดวงหนึ่งในระบบสุริยะ ทั้งนี้ เพราะไม่ว่าสามารถควบคุมเเรงดึงดูดเเละวงโคจรของสิ่งต่างๆที่อยู่รอบวงโคจรของมันได้จนถึงปัจจุบัน มีวัตถุบนท้องฟ้าที่จัดเป็นดาวเคราะห์เเคระ มีดังนี้
1.ดาวพลูโต
 |
ดาวพลูโต |
ดาวพลูโตมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2,390
กม. มีดวงจันทร์เป็นบริวาร
5
ดวง ได้เเก่ คารอน นิกซ์ ไฮดรา S/2011 P 1
และ S/2012 P 1
พลูโตเป็นเทพเจ้าเเห่งเมืองบาดาลในเทพนิยายโรมันหรือเรียกว่า
"
ฮาดาส" ในเทพนิยายกรีก สันนิษฐานว่าสาเหตุหนึ่งที่ตั้งชื่อว่าดาวดวงนี้ชื่อพลูโต
ก็เพื่อให้มันมีตัวอักษร "P-L"
ในชื่อเพื่อเป็นเกียรติเเก่
เปอร์ซิวัล โลเวลล์ ในภาษาไทยอาจเรียกว่าพลูโตว่า "ดาวยม"
หมายถึงยมโลกหรือนรก ซึ่งมีความหมายพ้องกับชื่อพลูโตหรือฮาเดสในตำนาน
ดาวพลูโตถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ 2547
โดยบังเอิญ มีการคำนวณหาตำแหน่งหาตำแหน่งดาวเคราะห์ดวงใหม่ถัดจากดาวเนปจูน
โดยใช้หลักฐานการเคลื่อนที่ของดาวยูเรนัสกับดาวเนปจูนเเต่ไม่ประสบความ สำเร็จ
จนกระทั่ง ไคลด์ ทอมบอก์ (Clyde Tombaught)
แห่งหอดูดาวโลเวลล์
ในรัฐแอริโซนา ได้ทำการสำรวจท้องฟ้าและพบดาวพลูโตในที่สุด
 |
ไคลด์ ทอมบอก์
|
หลังจากได้ค้นพบดาวพลูโตเเล้ว นักวิทยาศาสตร์ยังถกเถียงกันว่า ขนาดของดาวพลูโตเล็กเกินกว่าที่จะรบกวนวงโคจรของดาวเคราะห์ดวงอื่นได้ จะต้องมีดาวเคราะห์ดวงอื่นที่มีขนาดใหญ่กว่าจึงจะรบกวนดาวเนปจูนได้ ดังนั้นการค้นหาดาวเคราะห์ X จึงมีขั้นต่อไป แต่ก็ไม่มีสิ่งใดถูกค้นพบเพิ่มเติม จนนกระทั่งยานวอยเอเจอร์ 2 ได้ข้อมูลด้านมวลสารของดาวเนปจูนเพิ่มเติม ข้อถกเถียงดังกล่าวจึงหมดไปโดยไม่จำเป็นต้องมีดาวเคราะห์ดวงที่ 10 อย่างไรก็ตาม ในช่วงศตวรรษที่ล่าสุดมีการค้นพบวัตถุที่คล้ายดาวพลูโตมากมายในบริเวณนั้น เดียวกับดาวพลูโตที่เรียกว่า แถบไคเปอร์และดาวพลูโตก็มีลักษณะไม่สอดคล้องกับกำเนิดของดาวเคราะห์อย่างดาวเคราะห์ก๊าซหรือดาวเคราะห์หิน นำมาสู่หัวข้อในที่ประชุมสหพันธ์ดาราศาสตร์สากล ที่กรุงปราก
2.ดาวซีเรส
 |
ดาวซีเรส |
ซีเรสหรือชื่อเป็นทางการว่า 1 ซีเรส เป็นดาวเคราะห์น้อยดวงใหญ่ที่สุดและเป็นดาวเคราะห์เคระดวงเดียวในระบบสุริิยะชั้นใน เป็นดาวเคราะห์น้อยดวงเเรกที่ถูกค้นพบ โดยจูเซปเป ปีอาซซี นักดาราศาสตร์ชาวอิตาลี เมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ 1801 ตั้งตามชื่อซีรีสเทพีโรมันเเห่งการปลูกพืชเก็บเกี่ยวเเละความรักอย่างมารดา
 |
จูเซปเป ปีอาซซี |
ดาวซีเรสมีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 950 กม.และประกอบด้วยมวล 1 ใน 3 ของมวลทั้งหมดในแถบดาวเคราะห์น้อย พื้นผิวดาวซีเรสอาจเป็นส่วนผสมของนำ้เเข็งเเละธรตุที่ถูกไฮเดรต เช่น คาร์บอเนตเเละดินเหนียว ดาวซีเรสจำเเนกแก่นหินและเเมนเทิลนำ้เเข็งเเละอาจมีมหาสมุทรน้ำในสถานะของเหลวกักก็บไว้ใต้พื้นผิวจากโลกโชติมาตรปรากฏของดาวซีเรสอยู่ระหว่าง 6.7-9.3 ดังนั้นเเม้ในช่วงสว่างสุดก็ไม่อาจเห็นได้ด้วยตาเปล่า ยกเว้นท้องฟ้าที่มืดอย่างยิ่ง วันที่ 27 กันยายน ค.ศ 2007 นาซ่าส่งยานสำรวจอวกาศดวอ์น ไปสำรวจเวสตาเเละซีเรส
3.ดาว UB313
 |
ดาว UB313 |
|
|
|
|
ดาว UB313 อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นระยะทาง 97 หน่วยดาราศาสตร์ โคจรรอบดวงอาทิตย์ด้วยคาบ 557 ปีเเละระนาบวงโคจรเอียงทำมุม 44 องศากับระนาบวงโคจรโลก ขณะนี้ถือเป็นวัตถุเเถบไคเปร์(Kuiper Belt Object) หรือวัตถุทีโอเอ็น(Trans Neptunian Object) ซึ่งหมายถึงวัตถุที่อยู่ไกลเลยจากวงโคจรของดาวเนปจูน ไมเคิล บราวน์,ชาด ทรูจิลโลเเละเดวิด เรบิโนวิตซ์ ค้นพบ 2003 UB313 เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2548 จากภาพถ่ายท้องฟ้าที่ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2546 พวกเขาประกาศการค้นพบในวันที่ 9 กรกฎาคม 2548 พร้อมกับวัตถุเเถบไคเปอร์อีก 2 ดวง คือ 2003 EL เเละ 2005 FY นักดาราศาสตร์ทราบขนาดของวัตถุอย่าง 2003 UB 313 โดยดูจากความสว่างที่วัดได้และการคาดคะเนความสามารถในการสะทอนเเสงของพื้นผิวที่เรียกว่า อัตราส่วนสะท้อน (albedo) และถึงเเม้จะสมมติใหเ 2003 UB 313 สะท้อนเเสงดวงอาทิตย์ที่ตกลงบนพื้นผิวออกมาทั้งหมด 100% มันก็ยังมีขนาดพอๆกับดาวพลูโต นั่นหมายความว่าวัตถุนี้ต้องมีขนาดใหญ่กว่าดาวพลูโต เบื้องต้นคะเนว่าอาจมีขนาดราว 2,600 กม. เเต่ไม่เกิน 3,200 กม.